Alien: Earth ซีรีส์ใหม่ล่าสุดในแฟรนไชส์ Alien ได้นำเสนอการสำรวจจักรวาลอันมืดมิดในรูปแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตอนที่
5 ที่มีชื่อว่า
"In Space, No One..." ได้รับการยกย่องอย่างสูงว่าเป็นตอนที่ดีที่สุดในแฟรนไชส์นับตั้งแต่ Aliens ของ James Cameron ในปี 1986 ตอนนี้ทำหน้าที่เป็นฉากย้อนอดีตอันเข้มข้นที่ไขปริศนาเหตุการณ์หายนะที่เกิดขึ้นบนยานอวกาศ
Maginot และการมาถึงของ
Xenomorphs บนโลก
เปิดเผยการก่อวินาศกรรม เนื้อหาของตอนนี้พาผู้ชมย้อนเวลากลับไป 17
วันก่อนที่ยาน Maginot จะตกสู่พื้นโลก เพื่อเผยให้เห็นว่า การตกของยานไม่ใช่แค่อุบัติเหตุ
แต่เป็นการก่อวินาศกรรมที่วางแผนไว้โดย Petrovich เขาถูกจ้างโดย Boy Kavalier ซีอีโอของ Prodigy Corporation เพื่อให้ยานตกในเขตแดนของ Prodigy
City โดยมีเป้าหมายเพื่อครอบครองสิ่งมีชีวิตต่างดาวของ
Weyland-Yutani การเปิดเผยนี้เปลี่ยนแปลงมุมมองของผู้ชมต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนแรกๆ
ของซีรีส์อย่างสิ้นเชิง และเน้นย้ำถึงธีมหลักของการ "ครอบงำขององค์กรและความโลภ" ที่เป็นพลังขับเคลื่อนความหายนะ
ภัยคุกคามใหม่และเสียงสะท้อนจากอดีต ขณะที่ยานกำลังประสบปัญหา Xenomorphs
และสิ่งมีชีวิตต่างดาวชนิดใหม่อื่นๆ
ก็ถูกปล่อยออกมา ซึ่งรวมถึง
Bloodsucking Ticks และ T.
Ocellus หรือ "The
Eye" สัตว์ประหลาดที่มีลักษณะคล้ายหนวดและดวงตา การเปิดตัวสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ทำให้เกิดการต่อสู้ที่ซับซ้อนและน่าหวาดกลัวบนเรือ ตอนที่ 5 เต็มไปด้วยการคารวะ (homage) อย่างชัดเจนต่อภาพยนตร์ Alien ภาคแรก ตั้งแต่การออกแบบภายในของยาน Maginot ที่ชวนให้นึกถึง Nostromo ไปจนถึงฉากการประชุมลูกเรือ และการมีอยู่ของ AI
"Mother" ของ Weyland-Yutani ตัวละคร Morrow (Babou Ceesay) เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยไซบอร์ก
มีเรื่องราวเบื้องหลังที่สะเทือนใจคล้ายกับ Ripley โดยเฉพาะเรื่องลูกสาวที่จากไป ทำให้เขามีความมุ่งมั่นที่จะทำภารกิจให้สำเร็จตามคำสั่งของ
Yutani แม้จะต้องแลกด้วยชีวิตของลูกเรือ
หนึ่งในช่วงเวลาที่น่าสนใจที่สุดคือ การเผชิญหน้าระหว่าง T. Ocellus กับ Xenomorph ซึ่ง T. Ocellus พยายามโจมตีและกัด Xenomorph สร้างความประหลาดใจให้กับผู้ชม นักสร้างซีรีส์ Noah
Hawley ได้ยืนยันว่าการกระทำของ
T. Ocellus ในตอนก่อนหน้านี้ที่ดูเหมือนจะ
"เตือน" มนุษย์นั้น แท้จริงแล้วเป็นการ "เบี่ยงเบนความสนใจเพื่อให้สิ่งมีชีวิตอื่นหลบหนีและสร้างความโกลาหล" ยิ่งตอกย้ำถึงธรรมชาติที่ดุร้ายและชาญฉลาดของสิ่งมีชีวิตต่างดาวเหล่านี้
บทสรุป ตอน "In Space, No One..." ไม่เพียงแต่เติมเต็มช่องว่างสำคัญในไทม์ไลน์ของ Alien:
Earth แต่ยังเป็นการยกระดับคุณภาพของซีรีส์ให้โดดเด่น การเล่าเรื่องที่กระชับและเต็มไปด้วยความระทึกขวัญ
ทำให้มันเป็น "ภาพยนตร์ย่อย" ที่สามารถรับชมแยกต่างหากได้ ซีรีส์นี้กำลังปูทางไปสู่คำถามที่ใหญ่กว่าเกี่ยวกับชะตากรรมของโลกและบทบาทของความโลภขององค์กรในการนำไปสู่ความหายนะ หากซีรีส์ประสบความสำเร็จหลายซีซัน Noah
Hawley ได้กล่าวว่ามันอาจจะเชื่อมโยงโดยตรงกับเหตุการณ์ในภาพยนตร์ Alien ภาคแรก โดยอาจตอบคำถามว่า Weyland-Yutani รู้เรื่อง Xenomorphs บน LV-426 มาก่อนหรือไม่
--------------------------------------------------------------------------------
แหล่งที่มา:
• ScreenRant - Alien: Earth Explained - Timeline, Story &
Possible Movie Connections
• Den of Geek - Alien: Earth Might Be Making Sense of the Alien
Timeline After All
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น