02/09/2568

สรุปทุกสิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับ iPhone 17 ที่กำลังจะเปิดตัวเร็วๆ นี้

 Apple กำลังเตรียมเปิดตัว iPhone 17 ซีรีส์ในงาน "Awe Dropping" ที่กำหนดไว้ใน วันอังคารที่ กันยายนนี้ เวลา 10.00 น. แปซิฟิก Steve Jobs Theater ซึ่งจะมีการนำเสนอ iPhone รุ่นใหม่ถึงสี่รุ่น ได้แก่ iPhone 17, iPhone 17 Pro, iPhone 17 Pro Max และรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง iPhone 17 Air ที่คาดว่าจะเป็นรุ่นที่บางที่สุดเท่าที่ Apple เคยผลิตมา. ปีนี้จะไม่มีรุ่น iPhone 17 Plus อีกต่อไป โดย iPhone 17 Air จะมาเติมช่องว่างในฐานะอุปกรณ์ระดับกลาง ที่มีราคาแพงกว่า iPhone 17 แต่ถูกกว่ารุ่น Pro และ Pro Max. การสั่งจองล่วงหน้าคาดว่าจะเริ่มในวันที่ 12 กันยายน และเริ่มวางจำหน่ายทั่วไปในวันที่ 19 กันยายน.



การออกแบบและหน้าจอแสดงผลที่ปฏิวัติวงการ หนึ่งในการเปลี่ยนแปลงที่โดดเด่นที่สุดคือการยกเครื่องดีไซน์ครั้งใหญ่ โดยเฉพาะในรุ่น iPhone 17 Air ที่คาดว่าจะมีความบางเป็นพิเศษเพียง 5.5 มม. ถึง 6 มม. ซึ่งจะทำให้เป็น iPhone ที่บางที่สุดของ Apple. แม้จะบางลง แต่ Apple ก็อ้างว่าแบตเตอรี่ของรุ่น Air ยังคงได้รับการปรับแต่งมาสำหรับการใช้งานในแต่ละวัน. ส่วน iPhone 17 Pro และ Pro Max มีข่าวลือว่าจะเปลี่ยนกลับไปใช้วัสดุอะลูมิเนียมแทนไทเทเนียม ซึ่งอาจทำให้เครื่องเบาลงและทนทานขึ้น. ในด้านกล้อง iPhone 17 รุ่นมาตรฐานอาจมาพร้อมกับโมดูลกล้องทรงแคปซูลแบบใหม่คล้าย Google Pixel ในขณะที่รุ่น Pro และ Air อาจมีแถบกล้องสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดใหญ่ขึ้น.


ข่าวดีสำหรับผู้ใช้งานทุกรุ่นคือ iPhone 17 ทุกรุ่นจะมาพร้อมกับหน้าจอ ProMotion 120Hz ที่ช่วยให้การเลื่อนหน้าจอและการแสดงผลวิดีโอราบรื่นยิ่งขึ้น. นอกจากนี้ iPhone 17 รุ่นมาตรฐานจะขยายขนาดหน้าจอเป็น 6.3 นิ้ว เทียบเท่ากับ iPhone 16 Pro ในปัจจุบัน. รุ่น Pro อาจมาพร้อมการเคลือบหน้าจอที่ทนทานต่อรอยขีดข่วนและลดแสงสะท้อน.

ประสิทธิภาพและแบตเตอรี่ที่เหนือกว่า เรื่องชิปเซ็ต iPhone 17 Pro และ Pro Max จะใช้ชิป A19 Pro ใหม่พร้อม RAM 12GB และระบบระบายความร้อนแบบ Vapor Chamber เพื่อประสิทธิภาพการเล่นเกมที่ดีขึ้น. ส่วน iPhone 17 Air ก็คาดว่าจะมี RAM 12GB เช่นกัน และใช้ชิป A19 หรือ A19 Pro ที่มี GPU core น้อยกว่า. สำหรับ iPhone 17 รุ่นพื้นฐานมีข่าวลือที่ขัดแย้งกัน บ้างก็ว่าใช้ชิป A18 และ RAM 8GB บ้างก็ว่าใช้ชิป A19 และ RAM 8GB.

ในด้านแบตเตอรี่ iPhone 17 Pro Max คาดว่าจะมีแบตเตอรี่ที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาถึง 4,500mAh และอาจสูงถึง 5,000mAh ซึ่งให้การใช้งานหน้าจอได้นานถึง 14 ชั่วโมง. iPhone 17 Air คาดว่าจะมีแบตเตอรี่ประมาณ 2,800mAh. ทุกรุ่นจะรองรับการชาร์จ USB-C ที่เร็วขึ้น และ MagSafe ก็ได้รับการปรับปรุงให้รองรับการชาร์จไร้สายสูงสุด 50W. นอกจากนี้ คุณสมบัติ Adaptive Power ใน iOS 26 จะช่วยยืดอายุแบตเตอรี่ให้ยาวนานขึ้นอีกด้วย.

ซอฟต์แวร์อัจฉริยะและกล้องที่คมชัดยิ่งขึ้น Apple จะอัปเกรดกล้องหน้า (เซลฟี่) เป็น 24 ล้านพิกเซลใน iPhone 17 ทุกรุ่น ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 12 ล้านพิกเซลในรุ่นก่อนหน้า. รุ่น Pro Max อาจเป็น iPhone รุ่นแรกที่มีกล้อง 48 ล้านพิกเซลถึงสามตัว (Wide, Ultra Wide, Telephoto) และรองรับการบันทึกวิดีโอ 8K. รุ่น Pro ยังอาจมาพร้อมคุณสมบัติการบันทึกวิดีโอพร้อมกันทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง และเลนส์ปรับรูรับแสงได้เพื่อการควบคุมภาพถ่ายที่ดียิ่งขึ้น.


คุณสมบัติที่เปิดเผยสำหรับ iOS 19 นั้น คาดว่าจะรวมอยู่ใน iOS 26 ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่ที่จะมาพร้อมกับการออกแบบ "Liquid Glass" ที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก visionOS ให้รูปลักษณ์โปร่งใส มีเลเยอร์ และทันสมัยยิ่งขึ้น. คุณสมบัติเด่นของ iOS 26 ยังรวมถึง การรองรับ RCS สำหรับการส่งข้อความที่ปลอดภัยและมีฟังก์ชันการทำงานที่ทันสมัยกับผู้ใช้ Android เช่น การตอบกลับข้อความเฉพาะ, การแก้ไขหรือยกเลิกการส่งข้อความ และ Tapbacks. Siri จะได้รับการอัปเกรดด้วย Apple Intelligence ทำให้ฉลาดขึ้น เข้าใจบริบทการใช้งาน และสามารถจัดการงานที่ซับซ้อนข้ามแอปพลิเคชันได้ด้วยเสียง. นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ Live Translation ผ่าน AirPods สำหรับการแปลบทสนทนาแบบเรียลไทม์ และการปรับปรุงแอป Health ด้วย AI เพื่อการโค้ชสุขภาพส่วนบุคคล.


อุปกรณ์เสริมและราคา Apple ยังมีข่าวลือว่าจะเปิดตัวอุปกรณ์เสริมใหม่ๆ เช่น เคสกันกระแทก (Bumper case) สำหรับ iPhone 17 Air ที่บางพิเศษ, สายคล้องตัว (Crossbody Strap) แบบแม่เหล็ก, เคส Liquid Silicone แบบใหม่, และเคส Smart Battery ที่กลับมาอีกครั้งสำหรับ iPhone 17 Air เพื่อช่วยแก้ปัญหาแบตเตอรี่ที่บางลง. ส่วนเรื่องราคานั้น มีการคาดการณ์ว่าจะมีการปรับเพิ่มขึ้นประมาณ 50 ดอลลาร์สหรัฐฯ เนื่องจากต้นทุนส่วนประกอบและภาษีนำเข้าที่สูงขึ้น. โดย iPhone 17 รุ่นพื้นฐานอาจเริ่มต้นที่ 829 ดอลลาร์สหรัฐฯ, iPhone 17 Air ที่ $979, iPhone 17 Pro ที่ $1,049 และ iPhone 17 Pro Max ที่ $1,249.

โดยรวมแล้ว iPhone 17 ซีรีส์ในปีนี้จะนำเสนอการอัปเกรดที่น่าสนใจทั้งในด้านการออกแบบ ประสิทธิภาพ และประสบการณ์การใช้งานซอฟต์แวร์ ซึ่งน่าจะตอบโจทย์ผู้ใช้งานที่มองหาสมาร์ทโฟนที่ทั้งสวยงาม ทรงพลัง และอัจฉริยะยิ่งขึ้น.

 

ไม่มีความคิดเห็น:

เปิดมิติใหม่แห่งการเรียนรู้: OpenAI ก้าวเข้าสู่ห้องเรียน

 OpenAI บริษัทผู้พัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ ( AI) ชื่อดัง กำลังจะเข้ามาพลิกโฉมการศึกษาด้วยซอฟต์แวร์ใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยเหลือนักเรียนและ...