14/09/2568

วิกฤตศรัทธาในระบบการเงิน: บทเรียนจาก Bank Run

 วิกฤตศรัทธาในระบบการเงิน: บทเรียนจาก Bank Run


ในโลกที่การเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจและข้อมูลข่าวสารเป็นไปอย่างรวดเร็ว วิกฤตการณ์ที่เรียกว่า "Bank Run" หรือการแห่ถอนเงินจากธนาคาร ได้กลายเป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงความเปราะบางของระบบการเงินที่อาศัย "ความเชื่อมั่น" เป็นหลักฐาน เหตุการณ์นี้ได้กลับมาเป็นข่าวใหญ่อีกครั้งในช่วงต้นปี 2023 กับการล่มสลายของธนาคาร Silicon Valley Bank (SVB) ในสหรัฐอเมริกา แต่ในความเป็นจริงแล้ว Bank Run ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะเคยเกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้งในประวัติศาสตร์ รวมถึงในประเทศไทยด้วย

ภาพประกอบสร้างด้วย AI


ต้นเหตุของความปั่นป่วน


Bank Run มักมีจุดเริ่มต้นจาก ความกังวลเกี่ยวกับความสามารถในการชำระหนี้ของธนาคาร ไม่ว่าจะเกิดจากข่าวสาร ผลประกอบการ หรือแม้แต่ข่าวลือ หัวใจสำคัญคือ "ความกลัว" ธนาคารไม่ได้เก็บเงินสดของผู้ฝากไว้ทั้งหมด แต่จะนำไปปล่อยกู้และลงทุนเพื่อสร้างรายได้ หากความเชื่อมั่นสั่นคลอนเพียงเล็กน้อย ผู้คนก็จะแห่ไปถอนเงินพร้อมกัน ทำให้ธนาคารขาดสภาพคล่องและไม่สามารถจ่ายคืนได้ทัน


ในกรณีของ Silicon Valley Bank (SVB) ซึ่งเป็นธนาคารที่เน้นให้บริการบริษัทเทคโนโลยีและสตาร์ทอัพ ในช่วงปี 2020-2022 SVB ได้รับเงินฝากจำนวนมหาศาลเนื่องจากธุรกิจเทคโนโลยีเติบโตอย่างรวดเร็ว ทางธนาคารได้นำเงินฝากส่วนใหญ่ไปลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ แต่เมื่อธนาคารกลางสหรัฐฯ (Federal Reserve) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ มูลค่าของพันธบัตรเหล่านี้ก็ลดลงอย่างรวดเร็ว ทำให้ SVB ประสบปัญหาขาดทุนและขาดสภาพคล่อง


สำหรับในประเทศไทยเองก็เคยเผชิญกับ Bank Run ใน วิกฤตการณ์ต้มยำกุ้งปี 2540 ที่ภาคธุรกิจโดยเฉพาะอสังหาริมทรัพย์ประสบปัญหา ทำให้กระแสความตื่นตระหนกในหมู่นักลงทุนต่างชาติเริ่มถอนการลงทุนออกจากประเทศ ส่งผลให้ค่าเงินบาทอ่อนตัวรุนแรง และธนาคารไทยขาดเงินทุนที่จะชำระคืนเงินฝาก นอกจากนี้ยังเคยเกิดเหตุการณ์ในปี 2557 เมื่อประชาชนแห่ถอนเงินออกจากธนาคารออมสินกว่า 1.05 แสนล้านบาทใน 4 วัน จากความไม่เชื่อมั่นต่อนโยบายการปล่อยกู้อินเตอร์แบงก์


ความรู้สึกของผู้คนและผลกระทบที่เกิดขึ้น


เมื่อเกิด Bank Run ความรู้สึกของผู้คนเต็มไปด้วย ความกลัว ความวิตกกังวล และการขาดความเชื่อมั่นอย่างรุนแรง พวกเขาจะรีบถอนเงินของตนเองออกมาก่อนที่ธนาคารจะล้มละลายหรือเงินฝากจะสูญหาย ข้อมูลข่าวสารที่แพร่กระจายอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ยิ่งทำให้ความกลัวนี้ทวีความรุนแรงขึ้นและกระตุ้นให้คนอื่นๆ แห่ถอนเงินตามกันไปเป็นลูกโซ่


ผลกระทบที่ตามมานั้นร้ายแรง ธนาคารที่เผชิญกับ Bank Run จะขาดสภาพคล่องอย่างรวดเร็วและไม่สามารถหาเงินสดมาคืนลูกค้าได้ทั้งหมด ทำให้ต้องขายสินทรัพย์ที่ถือครองอยู่ด้วยราคาที่ขาดทุน ซึ่งยิ่งตอกย้ำความหวาดกลัวและทำให้สถานการณ์แย่ลง หากปัญหานี้ลุกลามไปยังธนาคารอื่นๆ จะเกิดเป็น "โดมิโนทางการเงิน" หรือ "วิกฤตการณ์ธนาคารทั่วไป" ที่อาจนำไปสู่การล่มสลายทั้งระบบและส่งผลให้เศรษฐกิจถดถอยระยะยาว ตัวอย่างเช่น เหตุการณ์ Bank Run ในช่วง The Great Depression ในทศวรรษ 1930 นอกจากนี้ ยังมีผลกระทบต่อตลาดคริปโทเคอร์เรนซี โดยเฉพาะ Stablecoin อย่าง USDC ซึ่ง Circle ผู้ออกเหรียญได้ฝากเงินสำรองไว้กับ SVB


จุดสิ้นสุดของเหตุการณ์


เพื่อหยุดยั้งวิกฤต Bank Run หน่วยงานภาครัฐและธนาคารกลางจำเป็นต้องเข้ามาแทรกแซงอย่างรวดเร็ว เพื่อสร้างความเชื่อมั่นกลับคืนมา กลไกสำคัญที่ใช้คือ "โครงข่ายการคุ้มครองทางการเงิน" (Financial Safety Net) ซึ่งประกอบด้วยเครื่องมือหลัก 3 ชุด:


1. การปรับโครงสร้างทางธุรกิจของสถาบันการเงิน (Resolution Regime): ในกรณีของ SVB หน่วยงาน Federal Deposit Insurance Corporation (FDIC) ได้โยกย้ายเงินฝากทั้งหมดไปยังสถาบันการเงินเฉพาะกิจที่เรียกว่า Silicon Valley Bridge Bank เพื่อให้ผู้ฝากสามารถทำธุรกรรมได้ตามปกติ

2. การคุ้มครองผู้ฝากเงินโดยการประกันเงินฝาก (Deposit Insurance System): FDIC ได้ประกาศคุ้มครองเงินฝากของ SVB เต็มจำนวน จากเดิมที่คุ้มครองเพียง 250,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบัญชี เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับผู้ฝาก

3. การสนับสนุนสภาพคล่อง (Emergency Liquidity Assistance - ELA): ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Federal Reserve) ทำหน้าที่เป็น "Lender of Last Resort" โดยได้เปิดโครงการ Bank Term Funding Program (BTFP) ซึ่งให้ธนาคารสามารถกู้ยืมสภาพคล่องได้ไม่จำกัดจำนวนเป็นระยะเวลา 1 ปี โดยนำพันธบัตรรัฐบาลที่มูลค่าลดลงมาค้ำประกันตามมูลค่าที่ตราไว้ (Par Value) เพื่อหลีกเลี่ยงการขายสินทรัพย์ขาดทุน มาตรการเหล่านี้ช่วยให้ USDC ฟื้นตัวกลับมาใกล้เคียง 1 ดอลลาร์ได้


ในกรณีของธนาคารออมสินในปี 2557 การแก้ปัญหาคือผู้อำนวยการธนาคารลาออกและยกเลิกวงเงินกู้เพื่อกู้ศรัทธาคืนมา นอกจากนี้ Bitcoin และสกุลเงินดิจิทัลบางส่วนก็ถูกมองว่าเป็นทางเลือกใหม่ในโลกการเงินที่ผู้คนสามารถเป็นเจ้าของเงินได้โดยตรง ไม่ต้องผ่านตัวกลางอย่างธนาคาร อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจเลือกทางเลือกทางการเงินใดๆ ก็ยังต้องพิจารณาข้อดีข้อเสียและความเสี่ยงอย่างรอบด้าน


ความเชื่อมั่น คือกุญแจสำคัญ หากผู้ฝากเงินมั่นใจว่าจะสามารถถอนเงินของตนเองได้ Bank Run ก็จะไม่เกิดขึ้นตั้งแต่แรก หรือจะหยุดลงได้อย่างรวดเร็ว การมีโครงข่ายการคุ้มครองทางการเงินที่พร้อมใช้งาน มีประสิทธิภาพ ยืดหยุ่น และดำเนินการได้อย่างทันท่วงที จึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งในการป้องกันและระงับวิกฤต

ศรัทธาในระบบสถาบันการเงิน

ไม่มีความคิดเห็น:

วิกฤตศรัทธาในระบบการเงิน: บทเรียนจาก Bank Run

 วิกฤตศรัทธาในระบบการเงิน: บทเรียนจาก Bank Run ในโลกที่การเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจและข้อมูลข่าวสารเป็นไปอย่างรวดเร็ว วิกฤตการณ์ที่เรียกว่า ...